
รู้หรือไม่? ท่านั่งขับรถที่ถูกต้อง ช่วยลดอาการปวดหลังได้!
🚗 สำหรับคนที่ต้อง ขับรถเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะขับทางไกลหรือนั่งรถติดในเมือง หลายคนอาจประสบปัญหา ปวดหลัง ปวดบ่า สะบัก หรือสะโพก โดยไม่รู้ว่าสาเหตุหลักมาจาก “ท่านั่งขับรถที่ไม่ถูกต้อง” นั่นเอง
ทำไมขับรถนานถึงปวดเมื่อย?
เมื่อเรานั่งผิดท่า เช่น เอนพนักพิงมากเกินไป หรือยื่นคอไปข้างหน้า ห่อไหล่ หรือเหยียดแขนตึงเกินไป ส่งผลให้กล้ามเนื้อหลัง คอ และไหล่ทำงานหนักโดยไม่รู้ตัว และเมื่อเวลาผ่านไปจึงเกิดอาการเมื่อยล้า หรือปวดหลังเรื้อรังตามมา
วิธีปรับท่านั่งขับรถที่ถูกต้อง ลดปวด เพิ่มความปลอดภัย
1. จับพวงมาลัยให้ถูกตำแหน่ง
🕘 ตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา คือท่าที่ดีที่สุด แขนจะงอเล็กน้อย ลดอาการเมื่อยที่ต้นแขน และควบคุมพวงมาลัยได้คล่องตัวขึ้น
2. ปรับพนักพิงเอนเล็กน้อย
🪑 ปรับพนักพิงให้อยู่ในช่วง 90 – 110 องศา ไม่ควรเอนมากเกินไป เพื่อช่วยพยุงแนวกระดูกสันหลังให้ตรง ลดอาการปวดหลังได้
3. ปรับความสูงของเบาะให้พอดี
📏 ระยะห่างระหว่างศีรษะกับเพดานควรเท่ากับ 1 กำปั้น และปรับหมอนรองศีรษะให้อยู่ระดับเดียวกับหัว ลดแรงกระแทกและช่วยป้องกันอาการเจ็บคอหากเกิดอุบัติเหตุ
4. ปรับระยะเบาะกับแป้นเหยียบ
🦵 เบาะควรอยู่ในระยะที่เข่างอเล็กน้อย เพื่อให้ขาไม่เกร็ง สามารถเหยียบเบรกและคันเร่งได้อย่างสะดวก
ขับขี่ปลอดภัย ต้องไม่ลืมสิ่งนี้!
✅ คาดเข็มขัดนิรภัย ทุกครั้ง แม้ระยะทางใกล้ เพราะจะช่วยลดแรงกระแทก และช่วยป้องกันอุบัติเหตุอย่างมีประสิทธิภาพ
บทสรุป:
การนั่งขับรถให้ถูกหลัก ไม่เพียงช่วยลดอาการปวดเมื่อย แต่ยังเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อีกด้วย ลองปรับท่านั่งของคุณตามวิธีด้านบน แล้วคุณจะขับรถได้ นานขึ้น สบายขึ้น และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น